fbpx
ผสานพลังUXUI และ SEO สู่ความสำเร็จของเว็บไซต์ (UX/UI and SEO, the key success for website)

UX/UI และ SEO: เคล็ดลับสู่ความสำเร็จเว็บไซต์

ในยุคที่การแข่งขันทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างเว็บไซต์ก็ยิ่งต้องมีประสิทธิภาพสูง โดยต้องอาศัยการผสานพลังระหว่าง UX/UI มาเป็นหนึ่งในการดึงดูดใจผู้ใช้งาน รวมถึงการใช้ SEO มาช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาหน้าแรกของ Google เพราะการทำงานร่วมกันของทั้งสองส่วนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เว็บไซต์สวยงามและใช้งานง่าย แต่ยังช่วยเพิ่มการเข้าถึงและขับเคลื่อนความสำเร็จของเว็บไซต์ได้ดีไม่น้อย

UX/UI และ SEO หัวใจสำคัญของความสำเร็จบนเว็บไซต์?

UX/UI (User Experience/User Interface) เน้นการออกแบบที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสะดวกสบายและประทับใจ ตั้งแต่โครงสร้างที่ชัดเจนไปจนถึงการใช้งานที่ราบรื่น และช่วยเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าได้

SEO (Search Engine Optimization) เป็นอีกกลยุทธ์ที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับในผลการค้นหาหน้าแรก Google ช่วยเพิ่มการมองเห็นและดึงดูดผู้เยี่ยมชมที่มีคุณภาพ ยิ่งคอนเทนต์มีคุณภาพ ก็ยิ่งช่วยให้การแสดงผลของเว็บไซต์มีประสิทธิภาพ

และเมื่อ UX/UI และ SEO มาทำงานร่วมกันอย่างสมดุล เว็บไซต์จะไม่เพียงแค่ดึงดูดผู้ใช้งาน แต่ยังเพิ่มการเข้าถึงและสร้างผลลัพธ์ได้แบบดีเยี่ยม

What is UX/UI

UX/UI คืออะไร?

UX (User Experience) คือ ประสบการณ์ที่ผู้ใช้งาน ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งจะดีหรือแย่ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพอใจของผู้ใช้งาน เช่น ถ้าเว็บไซต์ใช้ง่าย โหลดเร็ว และทำให้ผู้ใช้หาสิ่งที่ต้องการเจอไว ก็ถือว่า UX ดี ทำให้ผู้ใมช้มีความประทับใจ ตอบโจทย์การใช้งาน

UI (User Interface) คือ หน้าตาและการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ปุ่ม สี ตัวหนังสือ หรือไอคอนที่เราเห็น ถ้า UI ออกแบบมาสวยงาม ดูสบายตา และใช้งานง่าย จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมดีขึ้น

สรุปง่าย ๆ UX คือการทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก ส่วน UI คือการทำให้ดูดีและน่าใช้งาน ซึ่งถ้าสองอย่างนี้ทำงานร่วมกันได้ดี ก็จะช่วยให้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันโดนใจผู้ใช้มากขึ้น 

อ่านบทความเพิ่มเติม UX/UI Design คืออะไร ใครอยากทำ…ต้องเรียนรู้ 6 ทักษะนี้

SEO คืออะไร?

SEO (Search Engine Optimization) คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาบนเครื่องมือค้นหา เช่น Google โดยเป้าหมายคือทำให้คนค้นหาเจอเว็บไซต์ของเราง่ายขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมที่มีคุณภาพ

SEO เกี่ยวข้องกับหลายเรื่อง เช่น การเลือกใช้คำสำคัญ (Keywords) ที่ตรงกับสิ่งที่คนค้นหา การทำให้เนื้อหามีคุณค่าและน่าสนใจ รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจได้ง่าย เช่น การใช้หัวข้อที่ชัดเจนและการเพิ่มลิงก์ที่ช่วยให้เว็บไซต์น่าเชื่อถือ

พูดง่าย ๆ ก็คือ SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ของเราถูกค้นหาเจอมากขึ้น เพื่อดึงดูดคนเข้ามาเยี่ยมชมและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้หรือความสำเร็จในแบบที่เราต้องการ

อ่านบทความเพิ่มเติม SEO กุญแจสู่ความสำเร็จในโลกออนไลน์ เจาะลึกทุกเทคนิค

UX/UI กับ SEO คู่หูขับเคลื่อนความสำเร็จของเว็บไซต์

เมื่อเว็บไซต์มีการออกแบบ UX/UI ที่ดีและใช้งานสะดวก และมี SEO ที่คุณภาพสูงจะสามารถทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้นและไม่เด้งกลับไปเร็ว ๆ ซึ่งช่วยลด อัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate) ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบที่ไม่ดีได้ เพราะถ้าเว็บไซต์ใช้งานยาก ผู้ใช้จะออกจากเว็บไซต์ไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์นั้นไม่มีคุณภาพและอาจส่งผลให้หลุดออกจากอันดับการค้นหาได้

ผสาน UX/UI และ SEO เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ในทุกมิติ

หากเปรียบเทียบการทำงานร่วมกันของ UX/UI และ SEO ก็เหมือนกับการทำร้านค้าออนไลน์ที่ทั้งสะดวกสบายและโดดเด่นในแง่การมองเห็น

SEO ก็เหมือนกับการตั้งร้านอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด เพราะ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้า (ผู้ใช้งาน) หาร้านค้าของคุณเจอได้อย่างง่ายดาย และมาเยี่ยมชมร้านของคุณได้บ่อยแค่ไหนก็ได้ตามต้องการ

และ UX/UI ก็คือการออกแบบร้านของคุณสวยงามและน่าสนใจ มีสไตล์โดดเด่น เหมือนกับการตกแต่งร้านให้ดึงดูดใจลูกค้า เพราะการออกแบบที่ดีและเนื้อหาที่มีคุณภาพจะทำให้ผู้คนอยากเข้าร้านของคุณบ่อย ๆ และแชร์ร้าน (เว็บไซต์) ของคุณให้คนอื่นรู้จักผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ร้านของคุณได้รับความสนใจมากขึ้น

ฉะนั้น การทำงานร่วมกันของ UX/UI และ SEO นอกจากจะทำให้เว็บไซต์สวยงามและใช้งานง่ายแล้ว ยังสามารถดึงดูดลูกค้าและมีการมองเห็นที่ดีในโลกออนไลน์ เพิ่มโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จได้มากขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มอัตราการคลิก (Click-Through Rate)

อัตราการคลิก (CTR) คือ เปอร์เซ็นต์ของคนที่คลิกลิงก์เว็บไซต์เมื่อแสดงในผลการค้นหาหรือโฆษณา เช่น ถ้าลิงก์แสดง 100 ครั้ง และมีคนคลิก 5 ครั้ง อัตราการคลิกจะเป็น 5%

ซึ่งการเพิ่ม CTR สามารถทำได้โดยการเขียนหัวข้อที่น่าสนใจและตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น การใช้คำถามหรือข้อเสนอที่ดึงดูด การใช้คำอธิบายที่กระชับและตรงประเด็น และการปรับปรุง URL ให้ง่ายต่อการเข้าใจ นอกจากนี้ การใช้ Rich Snippets เช่น คะแนนรีวิวหรือราคาสามารถทำให้ลิงก์โดดเด่นขึ้นในผลการค้นหา รวมถึงการออกแบบ UX/UI ที่ดีและการใช้คำกระตุ้น (Call-to-Action) ก็ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้คลิกเข้ามามากขึ้น และการทำ A/B Testing ยังช่วยหาวิธีที่มี CTR สูงที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้

เคล็ดลับลดอัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate)

การลดอัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate) คือ การทำให้ผู้ใช้ไม่ออกจากเว็บไซต์เร็วเกินไป การลดอัตราการเด้งกลับช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการมองเห็นที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของ Google และเพิ่มโอกาสในการมีผู้เข้าชมมากขึ้น

สามารถทำได้โดยการปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ให้เร็วขึ้น ออกแบบ UX/UI ให้ง่ายและใช้งานสะดวก และปรับเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ เช่น การใช้คำสำคัญที่เหมาะสมและข้อมูลที่มีคุณค่า นอกจากนี้ควรใช้ลิงก์ที่ชัดเจนและเพิ่มการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม และทำให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนมือถือ เพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์นานขึ้นและลดอัตราการเด้งกลับ

สร้างประสบการณ์สุดปัง ทำให้ผู้ใช้ไม่อยากออก

การทำให้ผู้ใช้งานอยู่บนเว็บไซต์นาน ๆ บอกเลยว่าไม่ยาก เริ่มจากการทำให้เว็บดูน่าสนใจและใช้งานง่าย เช่น ออกแบบให้สะดวกสบาย เนื้อหาตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ และเพิ่มภาพหรือวิดีโอที่น่าดึงดูด หรือสามารถเพิ่มลิงก์ไปยังบทความหรือหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นให้คนคลิกไปดูมากขึ้น 

ที่สำคัญการทำให้เว็บไซต์โหลดไวและรองรับการใช้งานบนมือถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องมี เพราะสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกหงุดหงิดและอยากอยู่บนเว็บนาน ๆ

อ่านบทความเพิ่มเติม 10 สูตรลับออกแบบเว็บไซต์ดึงดูดยอดขายแบบมืออาชีพ

ปรับ Conversion Rate ให้พุ่ง เพื่อทำให้ผู้ใช้กลายเป็นลูกค้า

การปรับ Conversion Rate หรืออัตราการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้าสามารถทำได้โดยการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ดีขึ้น เช่น ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วและใช้งานง่าย ใช้การเรียกร้องให้ทำการกระทำ (Call to Action) ที่ชัดเจน และเสนอข้อเสนอหรือโปรโมชั่นที่ดึงดูด ผู้ใช้ยังจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นหากมีรีวิวหรือคำรับรองจากลูกค้าอื่น ๆ รวมถึงการทำให้หน้าเว็บดูน่าเชื่อถือและการออกแบบที่ดีจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ทำการซื้อหรือสมัครใช้บริการมากขึ้น

สร้างแบรนด์ให้ดังเปรี้ยง! เคล็ดลับที่ทำให้คนจดจำได้

การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง สามารถเริ่มจากการทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างและโดดเด่น โดยการมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เช่น โลโก้ที่จดจำง่าย การเลือกโทนสีที่สื่อถึงความเป็นตัวเอง และการสื่อสารที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านการให้บริการที่ดี มีการติดต่อสื่อสารที่เป็นกันเองให้ลูกค้ารู้สึกว่าเข้าถึงงาน มีคสวามน่าเชื่อถือ ลูกค้าก็จะประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ ๆ และแนะนำให้กับคนอื่น ๆ ทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างมั่นคง

การรวมพลังของ UX/UI และ SEO นอกจากทำให้เว็บไซต์มีดีไซน์ที่สวยงามและใช้งานง่าย แต่ยังถูกค้นหาเจอได้ง่ายในผลการค้นหาของ Google ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้เข้าชม และทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่นิยมและสามารถดึงดูดผู้ใช้ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

ออกแบบเว็บไซต์ใช้งานง่าย ๆ มีผลดีทั้งผู้ใช้และ SEO

  • Navigation ที่ชัดเจน: จัดวางเมนูและปุ่มต่าง ๆ ให้เข้าใจง่าย ผู้ใช้สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้รวดเร็ว เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีและไม่ทำให้ผู้ใช้หลงทาง
  • Layout ที่เป็นระเบียบ: การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บให้มีความสมดุล สบายตา และไม่รกจนเกินไป ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นข้อมูลได้ชัดเจนและง่ายต่อการอ่าน
  • Font และสีที่เหมาะสม: เลือกใช้ฟอนต์และสีที่อ่านง่าย และสอดคล้องกับแบรนด์ เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสะดวกสบายขณะใช้งานเว็บไซต์ โดยไม่ทำให้เกิดความลำบากในการมองเห็น
  • Responsive Design: ออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถแสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา

เพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บ ไม่ทำให้ User Experience เสีย

การเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องรอนาน แต่ยังช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานยังคงดีอยู่

  • บีบอัดรูปภาพ: เลือกขนาดของรูปภาพให้พอดีกับขนาดที่จะแสดงผลบนหน้าเว็บ เพื่อไม่ให้ไฟล์รูปภาพใหญ่เกินไปและทำให้เว็บไซต์โหลดช้า 
  • ลดขนาดไฟล์ CSS และ JavaScript: จะช่วยให้โหลดเว็บไซต์เร็วขึ้น โดยการลบโค้ดที่ไม่จำเป็นและการรวมไฟล์หลาย ๆ ไฟล์เข้าด้วยกัน เพื่อลดจำนวนการร้องขอจากเซิร์ฟเวอร์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ Plugins หรือ Widgets ที่ไม่จำเป็น: เพราะ Plugins หรือ Widgets บางตัวอาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ควรเลือกใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ เพื่อให้ไม่เพิ่มภาระในการโหลดหน้าเว็บ.
  • ใช้ Loading Animation: เพราะการแสดง Loading Animation ขณะเว็บไซต์กำลังโหลดจะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บไซต์กำลังทำงานอยู่และไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เมื่อเว็บไซต์โหลดเสร็จแล้ว การใช้ Animation ที่น่ารักหรือสร้างความรู้สึกดี ๆ ก็ช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งาน

 

บอกเลยว่าหากนำเทคนิคเหล่านี้มาปรับใช้จะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นและยังคงมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นการดูเนื้อหาเร็ว ๆ หรือการทำธุรกรรมที่ไม่สะดุด

  •  

ปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ SEO ด้วย UX/UI

การออกแบบเว็บไซต์ให้มีโครงสร้างที่ชัดเจนทั้งในแง่ของ UX/UI และ SEO จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีและทำให้เว็บไซต์ติดอันดับดีขึ้น

  • Hierarchical Structure: การสร้างลำดับชั้นของหน้าเว็บไซต์ให้ชัดเจนจะช่วยให้ทั้งผู้ใช้และ Search Engine เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ง่าย เช่น การจัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันและจัดเรียงเนื้อหาตามความสำคัญ
  • URL ที่อ่านง่าย: แนะนำให้เลือกใช้ URL ที่สั้นและกระชับ พร้อมคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับเนื้อหาของหน้าเพจ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้และ Google เข้าใจเนื้อหาในหน้านั้น ๆ ได้ดีขึ้น
  • Internal Linking: การเชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ ภายในเว็บไซต์จะช่วยให้ Search Engine สามารถคืบคลานเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างหน้าได้ดีขึ้นและยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก
  • แสดงเนื้อหาที่สำคัญก่อน: เช่น หัวข้อหลัก รูปภาพหลัก หรือข้อมูลที่สำคัญบนหน้าเว็บให้ผู้ใช้เห็นได้ทันที โดยไม่ต้องเลื่อนหน้าเว็บมากเกินไป
  • ลดการใช้ Effect ที่ซับซ้อน: เพราะการใช้ Effect ที่ซับซ้อนหรือมีการเคลื่อนไหวมากเกินไปอาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิด ควรเลือกใช้ Effect ที่จำเป็นและไม่ทำให้เว็บไซต์ช้าลง
  •  

บทสรุปการผสาน UX/UI และ SEO เพื่อเว็บไซต์ที่ดีเยี่ยม

ขอย้ำเลยว่า การผสาน UX/UI และ SEO เป็นอีกวิธีที่ยอดเยี่ยม และมีปสิทธิภาพสูง เพราะการออกแบบที่เข้าใจง่ายและใช้งานสะดวกจะช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดี และส่งผลให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาดีขึ้น การใช้ URL ที่ชัดเจน การเชื่อมโยงภายในที่มีประสิทธิภาพ และการลดเวลาโหลดหน้าเว็บจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาและดึงดูดผู้ใช้มากขึ้น
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ Deemmi พร้อมให้บริการด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน UX/UI และ SEO ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมกับเราได้ที่ไลน์ @deemmi

สนใจให้ทีมเราช่วยดูแลเรื่อง บทความ SEO สำหรับเว็บไซต์ และ ติดต่อ Line: @deemmi

ดังนั้นผู้ใช้ศึกษาเกี่ยวกับ Google SGE เพื่อเตรียมรับมือกับรูปแบบการค้นหา Zero-Click Search ที่กำลังจะเปิดให้ใช้ในเร็ว ๆ นี้ สนใจปรึกษางานพัฒนากลยุทธ์ เพื่อการเข้าสู่โลกออนไลน์ ติดต่อ: info@deemmi.com หรือ Line:@deemmi

Share

Search

Search

Recent Post

Related Post

เข้าใจกลโกง ‘คลิกเบต’ (Clickbait) ที่ดึงดูดคนอ่าน แต่ทำลาย SEO! เสี่ยงอันดับร่วง คนหาย Bounce Rate
Sales Dashboard คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ? เรียนรู้วิธีสร้าง Dashboard ยอดขายที่ทรงพลัง พร้อมวิเคราะห์ Metrics สำคัญ
ค้นพบกลยุทธ์การตลาด 5 มิติ "PRICE" ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างภาพลักษณ์ที่ดี สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความผูกพันกับลูกค้า